พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ทารก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก

Listen to this article
Ready
พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ทารก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ทารก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก









































พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ทารก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
















พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ทารก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก





















































รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด




















บทความ




















ต.ค. 30, 2025




















12นาที










เมื่อลูกน้อยเข้าสู่ช่วง พัฒนาการเด็ก 7 เดือน โลกของพวกเขาก็จะกว้างขึ้น เดือนนี้ลูกน้อยจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่น สำรวจ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ คุณแม่จะได้เห็นอารมณ์ขันที่เริ่มแสดงออกมา และลุ้นไปกับพัฒนาการสำคัญอย่างการนั่ง การคลาน หรือแม้กระทั่งฟันซี่แรกที่กำลังจะขึ้น มาดูกันว่ามีพัฒนาการอะไรน่าสนใจอีกบ้างสำหรับเด็ก 7 เดือน





























เก็บไว้อ่านคราวหน้า





































พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ทารก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
































































คำถามที่พบบ่อย
































ทำอย่างไรให้ลูกน้อยคลานได้?







การคลาน ถือเป็นก้าวสำคัญของพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและสมอง โดยปกติแล้วเด็กจะเริ่มคลานได้ในช่วงอายุ 6-10 เดือน และคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยกระตุ้นทักษะนี้ได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีดังนี้ค่ะ
เทคนิคกระตุ้นการคลานให้ลูก

  • สร้างแรงจูงใจด้วยของเล่น: วางของเล่นชิ้นโปรดไว้ในระยะที่ลูกต้องพยายามเอื้อมถึง เพื่อกระตุ้นให้เขาขยับตัวไปข้างหน้า
  • ทำ Tummy Time หน้ากระจก: การทำ Tummy Time หรือการฝึกให้ลูกนอนคว่ำหน้ากระจกจะช่วยให้เขาเรียนรู้ท่าทางการเคลื่อนไหวของตัวเอง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความอยากคลานมากขึ้น
  • จัดพื้นที่ที่เหมาะสม: เตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัยและกว้างพอให้ลูกได้คลานอย่างอิสระ ไม่มีสิ่งของอันตรายกีดขวาง

อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกไม่มีการตอบสนองต่อการกระตุ้น หรือไม่มีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวตามช่วงวัย ควรพาลูกไปพบกุมารแพทย์เพื่อปรึกษาและรับคำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ






















ทำไมลูกวัย 7 เดือนชอบดูดนิ้ว ?







ในเด็กวัย 7 เดือน การดูดนิ้วถือเป็นพฤติกรรมปกติที่พบได้บ่อยค่ะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการตามวัยที่เรียกว่า Oral Stage หรือช่วงที่เด็กเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านการใช้ปาก โดยมีเหตุผลหลายประการ ดังนี้

  • เป็นการสำรวจร่างกายและสิ่งรอบตัว เด็กวัยนี้เรียนรู้ที่จะควบคุมการใช้มือ และการดูดนิ้วคือวิธีหนึ่งที่พวกเขาใช้ทำความรู้จักกับร่างกายของตัวเองและสำรวจโลกรอบข้าง
  • บรรเทาอาการไม่สบายตัว เมื่อฟันกำลังจะขึ้น เด็กจะรู้สึกคันเหงือก การดูดนิ้วจึงช่วยบรรเทาอาการปวดและคันเหงือกได้
  • เป็นการสื่อสาร การดูดนิ้วอาจเป็นวิธีที่ลูกใช้สื่อสารว่า "หนูหิวแล้ว" หรือรู้สึกไม่สบายตัว

โดยปกติแล้ว พฤติกรรมการดูดนิ้วจะลดลงได้เองเมื่อเด็กโตขึ้นในช่วงอายุ 2-4 ปี แต่หากลูกยังคงติดดูดนิ้วจนอายุมากกว่า 4 ปี อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของขากรรไกรและรูปทรงของฟันได้ค่ะ






















ลูกยังนอนไม่เป็นเวลา และตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ทำอย่างไรดี?







สาเหตุที่ลูกตื่นกลางดึกบ่อย ๆ อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น หิว, นอนกลางวันมากไป, ไม่สบาย, เครียด หรือฟันกำลังจะขึ้น การสร้างนิสัยการนอนที่ดีจะช่วยให้ลูกหลับได้นานขึ้นและตื่นน้อยลง ลองทำตามวิธีต่อไปนี้

  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: ปรับห้องนอนให้เงียบ, มืด, และมีอุณหภูมิที่พอเหมาะ อาจเปิดเพลงกล่อมเด็กเบา ๆ เพื่อช่วยให้ลูกหลับสบาย
  • ปรับเวลาการนอนกลางวัน: ไม่ควรให้ลูกนอนกลางวันนานเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อการนอนตอนกลางคืนได้

นอกจากวิธีที่กล่าวมาแล้ว เพื่อความสบายใจของคุณแม่ คุณสามารถ ปรึกษากุมารแพทย์ ได้เสมอ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับพฤติกรรมการนอนของลูกน้อยค่ะ




































สรุป

  • พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ลูกจะเริ่มเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น ลูกจะคลาน หรือ นั่งทรงตัวได้เอง โดยไม่ต้องมีคนคอยพยุง และสามารถเปลี่ยนสลับมือถือของได้
  • วิธีกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 7 เดือน การปล่อยให้ลูกได้สำรวจโลกด้วยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ คุณแม่สามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 7 เดือน ได้ง่าย ๆ โดยให้ลูกได้คืบและนั่งเล่นเองบนพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยฝึกกล้ามเนื้อและสร้างความมั่นใจในการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ การหาของเล่นที่มีสี พื้นผิว และขนาดต่างกัน เช่น ผิวเรียบ หยาบ อ่อน หรือแข็ง ให้ลูกได้หยิบจับ จะช่วยพัฒนาการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กได้อย่างดีเยี่ยม
  • พัฒนาการล่าช้า ในเด็ก 7 เดือน หากคุณแม่สังเกตว่าลูกเข้าข่ายมีพัฒนาการล่าช้า เช่น ไม่กลิ้งตัว, นั่งไม่ได้, ไม่คลาน, หรือ ไม่สามารถหยิบจับสิ่งของเล็ก ๆ ได้ รวมถึง ไม่ตอบสนองต่อเสียง หรือ ไม่หันหาเมื่อถูกเรียกชื่อ ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมและเพื่อให้ลูกได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ใน 4 ด้านหลัก
  • พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ลูกโตขึ้นแค่ไหน
  • เช็กให้ชัวร์! พัฒนาการลูก 7 เดือน ตามเกณฑ์หรือไม่?
  • วิธีส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 7 เดือน
  • สิ่งที่พ่อแม่ควรระมัดระวัง ในการเลี้ยงเด็ก 7 เดือน
  • โภชนาการสำหรับเด็ก 7 เดือน จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้รสชาติใหม่

 

พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ใน 4 ด้านหลัก

ก้าวสู่เดือนที่ 7 ลูกน้อยจะมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นในทุก ๆ ด้าน โลกของพวกเขาจะกว้างขึ้นและเต็มไปด้วยการเรียนรู้ที่รอให้ค้นพบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็น พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดค่ะ

พัฒนาการด้านร่างกาย

ในวัยนี้ ลูกน้อยจะเริ่มเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น พวกเขาอาจเริ่ม คลาน หรือ นั่งทรงตัวได้เอง โดยไม่ต้องมีคนพยุง และยังพยายามใช้มือกวาดหรือคว้าของเล่นเข้ามาใกล้ตัว เพื่อสำรวจด้วยตัวเอง นอกจากนี้คุณแม่ยังจะได้เห็นลูกน้อย พยายามยกศีรษะและไหล่ขึ้นเมื่อนอนหงาย

พัฒนาการด้านการเรียนรู้

การเรียนรู้ของ เด็ก 7 เดือน ในวัยนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเคลื่อนไหวอีกต่อไป พวกเขาจะเริ่มใช้ประสาทสัมผัสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รอบตัว คุณแม่จะเห็นว่าพวกเขาสามารถ มองหนังสือที่อ่านได้นาน 2-3 นาที และรู้สึกสนุกเวลาได้ยินคำซ้ำ ๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้ภาษาในอนาคต นอกจากนี้ ทักษะการใช้มือยังพัฒนาขึ้นจนสามารถ เปลี่ยนสลับมือถือของได้ ซึ่งเป็นการฝึกการทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อมัดเล็กและสมอง

พัฒนาการด้านการสื่อสาร

เมื่อลูกน้อยเข้าสู่เดือนที่ 7 พวกเขาจะเริ่มสื่อสารกับคุณอย่างสนุกสนานมากขึ้น คุณอาจจะได้ยินเสียงที่เริ่มมีความหมายอย่างคำว่า “ป้อ” “แม่” หรือ “ป๊า” ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ลูกน้อยยัง รู้จักชื่อตัวเอง และจะหันมามองเมื่อคุณพ่อคุณแม่เรียกชื่อ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้น

พัฒนาการด้านสังคมและอารมณ์

พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ยังรวมไปถึงด้านอารมณ์และสังคมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ลูกน้อยของคุณแม่จะเริ่มแสดงออกและมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างมากขึ้นค่ะ

  • ชอบเล่นกับผู้อื่น: พวกเขาจะเริ่มสนุกกับการเล่นที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมากขึ้น และแสดงความสุขเมื่อได้เล่นด้วยกัน
  • สนใจภาพสะท้อนในกระจก: ลูกน้อยจะเริ่มมองภาพของตัวเองที่อยู่ในกระจกด้วยความสนใจและสนุกสนาน ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนแรกของการเรียนรู้และจดจำใบหน้าของตนเอง
  • ตอบสนองต่ออารมณ์ของคนอื่นและแสดงความร่าเริงอยู่บ่อย ๆ: ลูกน้อยสามารถรับรู้อารมณ์จากสีหน้าและท่าทางของคนรอบข้างได้ และมักจะยิ้มหรือหัวเราะเมื่อได้เห็นความสุขของคนที่อยู่รอบข้าง เช่น พ่อแม่ พี่เลี้ยง

พัฒนาการเด็ก 7 เดือน เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่จะได้เห็นการเติบโตของลูกน้อยอย่างชัดเจน การให้ความรักและความเข้าใจ พร้อมทั้งส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสม จะเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุขค่ะ

 

พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ลูกโตขึ้นแค่ไหน

เมื่อลูกน้อยเข้าสู่เดือนที่ 7 พวกเขากำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งน้ำหนักและส่วนสูง เพื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ได้ติดตามการเติบโตของลูกรัก นี่คือค่าเฉลี่ยตามเกณฑ์มาตรฐานที่น่าสนใจค่ะ

  • เด็กผู้หญิง: น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 7.6 กิโลกรัม และส่วนสูงเฉลี่ยประมาณ 67.3 เซนติเมตร
  • เด็กผู้ชาย: น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 8.3 กิโลกรัม และส่วนสูงเฉลี่ยประมาณ 69.2 เซนติเมตร

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยเท่านั้น ซึ่งเด็กแต่ละคนอาจมีน้ำหนักและส่วนสูงที่แตกต่างกันได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรพาลูกน้อยไปพบกุมารแพทย์เพื่อตรวจประเมินพัฒนาการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยเติบโตอย่างสมวัยค่ะ

 

เด็กกำลังเกาะขาโต๊ะ

 

เช็กให้ชัวร์! พัฒนาการลูก 7 เดือน ตามเกณฑ์หรือไม่?

การเฝ้าดูลูกน้อยเติบโตเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเสมอ เมื่อเข้าสู่ช่วง 7 เดือน พวกเขากำลังพัฒนาทักษะต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ที่จะนั่งหรือการเปล่งเสียงแรก ๆ ล้วนเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโต มาดูพร้อมกันว่า พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ของลูกรักเป็นไปตามเกณฑ์หรือไม่

พัฒนาการตามเกณฑ์ ก้าวสำคัญสู่การเรียนรู้

เมื่อลูกน้อยอายุ 7 เดือน พวกเขาจะแสดงออกถึงความสามารถใหม่ ๆ ที่น่าทึ่ง

  • นั่งเองโดยไม่ต้องมีคนประคอง: นี่เป็นพัฒนาการที่สำคัญของกล้ามเนื้อมัดใหญ่และเป็นก้าวแรกของการเคลื่อนไหวที่อิสระ
  • หันตามเสียงเรียกชื่อ: พวกเขาเริ่มจดจำและตอบสนองต่อคำศัพท์ที่คุ้นเคย โดยเฉพาะชื่อของตัวเอง ซึ่งเป็นพื้นฐานของการสื่อสาร
  • เล่นจ๊ะเอ๋ได้: การเล่นง่าย ๆ แบบนี้ช่วยให้ลูกน้อยเข้าใจหลักการของเหตุและผล และยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความผูกพัน
  • เลียนเสียงพูดคุย: ลูกจะเริ่มเปล่งเสียงเลียนแบบที่คุณพูด แสดงว่าพวกเขาพร้อมที่จะเรียนรู้และสื่อสารแล้ว

 

พัฒนาการอาจล่าช้า: เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกน้อยยังไม่มีพัฒนาการตามที่กล่าวมาข้างต้น การเฝ้าระวังและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญค่ะ

  • มีพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ล่าช้า: เช่น ไม่กลิ้งตัว, นั่งไม่ได้, ไม่คลาน หรือ ไม่พยายามเดิน
  • กล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง: ลูกไม่สามารถหยิบจับหรือถือสิ่งของเล็ก ๆ ได้
  • ไม่เข้าใจบทสนทนา, พูดช้า: ลูกไม่ตอบสนองต่อเสียง ไม่หันหาเมื่อถูกเรียกชื่อ หรือยังไม่มีเสียงอ้อแอ้เลียนแบบคำพูด

หากสังเกตว่าลูกเข้าข่ายมีพัฒนาการล่าช้า ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม การส่งเสริมพัฒนาการอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ลูกน้อยสามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพค่ะ

 

วิธีส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 7 เดือน

พัฒนาการเด็ก 7 เดือน เป็นช่วงเวลาทองที่คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของลูกได้ในทุก ๆ ด้าน การเล่นที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างทักษะสำคัญให้ลูกน้อยเติบโตอย่างสมวัย มาดูเคล็ดลับง่าย ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันค่ะ

  1. เปิดโอกาสให้ลูกได้สำรวจโลกด้วยตัวเอง: ลองอุ้มลูกให้น้อยลง อาจให้ลูกได้คืบและนั่งเล่นเอง บนพื้นที่ปลอดภัย จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อและสร้างความมั่นใจในการเคลื่อนไหว
  2. กระตุ้นประสาทสัมผัสผ่านของเล่น: หาของเล่นที่มีสี พื้นผิว และขนาดต่างกัน เช่น ผิวเรียบ หยาบ อ่อน หรือแข็ง ให้ลูกได้ หยิบจับ สิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กและการประสานงานระหว่างมือกับตา
  3. สร้างความท้าทายเล็ก ๆ น้อย ๆ: ลองกระตุ้นให้เด็กนั่งเอง โดยการวางของเล่นไว้ด้านหน้าและเยื้องไปด้านหลัง เพื่อให้ลูกเอียงตัวหยิบ หรือ กระตุ้นให้เด็กยืนเกาะเฟอร์นิเจอร์เอง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา
  4. ส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร: เรียกชื่อเด็กบ่อย ๆ และ พูดคุยออกเสียงตามทำนองเพลง จะช่วยให้ลูกเรียนรู้คำศัพท์และจังหวะของภาษา นอกจากนี้ การเล่นจ๊ะเอ๋กับเด็ก ยังช่วยฝึกการตอบสนองและสร้างความผูกพันทางอารมณ์อีกด้วย
  5. สนุกไปกับการเคลื่อนไหว: เปิดเพลงให้ลูกเต้นตามจังหวะเพลง จะช่วยให้ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกายและสร้างความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กัน

การให้ความรัก ความเข้าใจ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมให้ พัฒนาการเด็ก 7 เดือน ของลูกเป็นไปอย่างราบรื่นและเต็มศักยภาพค่ะ

 

สิ่งที่พ่อแม่ควรระมัดระวัง ในการเลี้ยงเด็ก 7 เดือน

เมื่อลูกน้อยเข้าสู่เดือนที่ 7 พวกเขากำลังเติบโตและเรียนรู้อย่างรวดเร็ว การดูแลเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ

1. เตรียมพร้อมรับมือเมื่อฟันซี่แรกขึ้น

ในช่วงวัยนี้ เด็กบางคนอาจเริ่มมี อาการฟันขึ้น ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวได้ คุณแม่ควรเตรียมความพร้อมด้วยการบรรเทาอาการปวดและของเล่นสำหรับกัดแก้คันเหงือกติดบ้านไว้เสมอ หากจำเป็นต้องใช้ยาสำหรับเด็กควรปรึกษากุมารแพทย์ก่อนเสมอ เพราะปริมาณการใช้ยาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของลูกน้อย เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ไม่แนะนำให้ซื้อยาเองเด็ดขาดนะคะ

2. จัดบ้านให้ปลอดภัยสำหรับนักสำรวจตัวน้อย

เพราะตอนนี้ลูกน้อยจะคลานและเคลื่อนไหวร่างกายได้มากขึ้น การสำรวจสิ่งของรอบตัวจึงเป็นเรื่องปกติ การจัดบ้านให้ปลอดภัย จึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

  • ระวังสิ่งของที่คว้าถึง: สังเกตสิ่งของที่ลูกน้อยสามารถคว้าหรือดึงได้ง่าย เช่น กระทะร้อนบนเตา หรือสายไฟต่าง ๆ
  • กั้นพื้นที่อันตราย: ใช้ประตูนิรภัย (baby gate) กั้นบริเวณอันตราย เช่น บันได, รอบเตาผิง, หรือบริเวณที่วางของอันตรายอย่างกระบะทรายแมว อาหารสุนัข และต้นไม้ในบ้าน
  • ตรวจสอบความปลอดภัย: หมั่นตรวจเช็กบริเวณต่าง ๆ ที่ลูกน้อยเล่นเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ ที่เป็นอันตรายหลงเหลืออยู่

 

3. ใส่ใจความปลอดภัยในการเดินทาง

เรื่องความปลอดภัยในรถยนต์ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เด็ก 7 เดือน ควรนั่งในคาร์ซีทแบบหันหน้าไปด้านหลัง (rear-facing car seat) เสมอ คุณแม่ควรหมั่นตรวจเช็กคาร์ซีทเป็นประจำว่าลูกไม่ได้ตัวใหญ่เกินไป หรืออุปกรณ์อยู่ในสภาพสมบูรณ์และติดตั้งอย่างแน่นหนาหรือไม่ เพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยในทุกการเดินทางค่ะ

 

เด็กทารกปากเลอะคราบอาหาร

 

โภชนาการสำหรับเด็ก 7 เดือน จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้รสชาติใหม่

เมื่อลูกน้อยเข้าสู่วัย 7 เดือน โภชนาการจะเริ่มมีความซับซ้อนขึ้น เพราะนอกจากนมแม่แล้ว อาหารตามวัยก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเติบโตของพวกเขาค่ะ มาดูกันว่าคุณแม่ควรเตรียมอาหารอย่างไรให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน

1. อาหารเสริมตามวัยที่เหมาะสม

เด็ก 7 เดือน ควรได้รับอาหารเสริม วันละ 1 มื้อ ควบคู่ไปกับกินนมแม่ ซึ่งอาหารควรมีความหลากหลายเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้รสชาติและพื้นผิวสัมผัสใหม่ ๆ

  • ข้าว: ให้ปริมาณ 4 ช้อน
  • โปรตีน: เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง ไข่ 1 ฟอง, เนื้อปลา 2 ช้อน หรือหมูบด 2 ช้อน
  • ผัก: ปริมาณ 1 ½ ช้อน เช่น ผักสุก หรือ ฟักทอง 1 ½ ช้อน
  • ผลไม้: ให้ปริมาณ 2 ชิ้น เช่น มะละกอสุก หรือมะม่วง

 

2. นมแม่ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

แม้ว่าเด็ก 7 เดือน จะเริ่มกินอาหารเสริมแล้ว แต่นมแม่ยังคงเป็นแหล่งโภชนาการหลักที่สำคัญที่สุดค่ะ ลูกน้อยควรได้รับ นมแม่ประมาณ 6-8 ออนซ์ วันละ 4-5 ครั้งค่ะ

ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ นมแม่คืออาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารก เพราะมีสารอาหารที่ซับซ้อนมากกว่า 200 ชนิด และยังปรับสร้างสารอาหารให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน ฮอร์โมน หรือแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร

น้ำนมแม่ประกอบด้วยสารอาหารสำคัญหลากหลายชนิด เช่น ดีเอชเอ (DHA) ธาตุเหล็ก และ วิตามิน รวมถึง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานที่รวดเร็ว (Fast Processing Brain) ช่วยเสริมศักยภาพการเรียนรู้ของเด็กเจนใหม่ให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ น้ำนมแม่ยังมีจุลินทรีย์สุขภาพ บี แล็กทิส (B. lactis) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การให้ลูกได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่หลังคลอด จึงเปรียบเสมือนการเติมจุลินทรีย์ดี ๆ ให้กับร่างกายตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะในทารกที่คลอดด้วยวิธีผ่าคลอด ซึ่งอาจมีปริมาณจุลินทรีย์ชนิดนี้น้อยกว่าปกติ การได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากนมแม่จึงช่วยเร่งการสร้างภูมิคุ้มกันในช่วงแรกของชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ในเด็กทารกแรกเกิดที่ภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ น้ำนมแม่ยังเปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรก ที่มีภูมิคุ้มกันโรคและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อย การกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเติบโตและสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาวค่ะ

พัฒนาการเด็ก 7 เดือน เป็นช่วงเวลาที่ลูกน้อยเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งด้านร่างกาย สังคม อารมณ์ และการเรียนรู้ พวกเขากำลังกลายเป็นนักสำรวจตัวน้อยที่กระตือรือร้นและอยากรู้อยากเห็น การได้เห็นลูกคลาน นั่งได้เอง เริ่มเปล่งเสียงที่มีความหมาย และแสดงออกถึงความสนใจในสิ่งรอบตัว ล้วนเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของคุณพ่อคุณแม่

การให้ความรัก ความเข้าใจ และการส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสมในทุก ๆ ด้าน จะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้ลูกน้อยเติบโตเป็นเด็กที่มีพัฒนาการสมวัย มีสุขภาพดี และมีความสุขในอนาคตค่ะ ที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปรับวัคซีนและตรวจประเมินพัฒนาการกับกุมารแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณเติบโตอย่างเต็มศักยภาพค่ะ

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

  • พัฒนาการเด็กทารกแรกเกิด - 1 ปี พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการตามช่วงวัย
  • พัฒนาการเด็ก 1 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
  • พัฒนาการเด็ก 2 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
  • พัฒนาการเด็ก 3 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
  • พัฒนาการเด็ก 4 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก




































อ้างอิง:











  1. 7-Month-Old Baby, What to expect
  2. พัฒนาการเด็กแรกเกิด – 12 เดือน เรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องรู้, อินทัชเมดิแคร์
  3. เช็คพัฒนาการเจ้าตัวน้อยวัยแรกเกิด, โรงพยาบาลนนทเวช
  4. ตารางพัฒนาการเด็กปฐมวัย, โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์
  5. Developmental Milestones: 7 Months, American Academy of Pediatrics
  6. เรียนรู้พัฒนาการที่สมวัยของน้อง ๆ อายุแรกเกิด –3 ปีกันเถอะ, โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
  7. พัฒนาการล่าช้าในเด็ก (Developmental Delay in Children), โรงพยาบาล MedPark
  8. Your 7-Month-Old Baby's Milestones and Development, Parents
  9. อาหารสำหรับเด็กทารก, โรงพยาบาลเปาโล
  10. ลูกกินนมแบบไหนเรียก Over breastfeeding, โรงพยาบาลสมิติเวช
  11. นมแม่มีประโยชน์ กรมอนามัย แนะ ทารก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน กินนมแม่อย่างเดียว, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  12. ลูกตื่นกลางคืนบ่อย ควรทำอย่างไร, helloคุณหมอ
  13. ลูกดูดนิ้ว, โรงพยาบาลสมิติเวช
  14. 7 กิจกรรมที่สามารถช่วยให้ลูกคลานได้เร็วขึ้น (Top tip to teach baby to crawl), แพทย์หญิงทานตะวัน พระโสภา แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฉุกเฉิน Dr.Noi The Family
  15. น้ำหนักทารก และส่วนสูง ตามช่วงอายุ, แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร helloคุณหมอ

 

อ้างอิง ณ วันที่ 12 กันยายน 2568 
 















































































คุณแม่ตั้งครรภ์






คุณแม่ตั้งครรภ์














แม่ผ่าคลอด






แม่ผ่าคลอด














ดูแลลูกตามช่วงวัย






ดูแลลูกตามช่วงวัย














ภูมิแพ้ในเด็ก






ภูมิแพ้ในเด็ก














แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน






แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน














พัฒนาการสมองลูกน้อย






พัฒนาการสมองลูกน้อย














การขับถ่ายลูกน้อย






การขับถ่ายลูกน้อย














แม่ให้นม






คุณแม่ให้นมบุตร














ตัวช่วยสำหรับคุณแม่






เครื่องมือตัวช่วยคุณแม่ท้อง พร้อมปฎิทินการตั้งครรภ์














อาหารเด็ก






อาหารเด็ก














S-Mom Club พร้อมเคียงข้างทุกช่วงเวลาที่สำคัญของคุณและลูก






S-Mom Club














วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ






วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ














ผลิตภัณฑ์






ข้อมูลผลิตภัณฑ์














โปรโมชั่น






โปรโมชัน




















































ความคิดเห็น

ความคิดเห็น (0)

ยังไม่มีความคิดเห็นสำหรับบทความนี้

โฆษณา

คำนวณฤกษ์แต่งงาน 2568

ปฏิทินไทย

24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วันจันทร์
Advertisement Placeholder (Below Content Area)