การขับขี่: 520d หรือ 530e ดีกว่า?

Listen to this article
Ready
การขับขี่: 520d หรือ 530e ดีกว่า?
การขับขี่: 520d หรือ 530e ดีกว่า?

การขับขี่: 520d หรือ 530e ดีกว่า?

โดย สมชาย วัฒนศิริ - ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในวงการยานยนต์ไทย

สมชาย วัฒนศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในวงการยานยนต์ไทย วันนี้จะมาแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่ BMW 520d และ BMW 530e ว่ารุ่นไหนมีสมรรถนะที่ดีกว่า สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่ ที่จะให้ทั้งความสะดวกสบายและประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม

การเปรียบเทียบสมรรถนะ

เริ่มต้นด้วย BMW 520d ซึ่งเป็นดีเซลรุ่นยอดนิยม มีเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ขณะที่ BMW 530e เป็นรุ่นปลั๊กอินไฮบริด ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 292 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร

เมื่อพูดถึงการเร่งความเร็ว 530e นั้นมีตัวเลขที่น่าประทับใจมากกว่า สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ซึ่งเร็วกว่ารุ่น 520d ที่ทำได้ใน 7.5 วินาที

ข้อดีและข้อเสียของแต่ละรุ่น

BMW 520d

  • ข้อดี: ประหยัดน้ำมันดีเซล, ค่าบำรุงรักษาต่ำ
  • ข้อเสีย: การเร่งความเร็วช้ากว่า

BMW 530e

  • ข้อดี: การเร่งที่รวดเร็ว, เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่า, ต้องชาร์จไฟเป็นประจำ

สรุป

การเลือกซื้อ BMW 520d หรือ 530e ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละบุคคล หากคุณต้องการรถที่ประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาต่ำ 520d อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าคุณต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่รวดเร็วและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 530e ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน สมชาย วัฒนศิริ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการขับขี่และขอให้ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคุณ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น (10)

มือใหม่ไฮบริด

ยังลังเลอยู่ครับ ระหว่าง 520d กับ 530e มีใครแนะนำอะไรไหมครับ? การปรับตัวกับรถไฮบริดยากไหม?

ถามใจดู

อยากรู้ว่าค่าบำรุงรักษาของ 530e จะแพงกว่ามากไหม มีใครพอจะแชร์ประสบการณ์การดูแลรักษารถไฮบริดบ้างครับ?

นักประหยัด

สำหรับคนที่ขับรถเยอะในเมือง ผมว่าการเลือก 520d เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าครับ เพราะประหยัดน้ำมันมากๆ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็น่าจะน้อยกว่า 530e

สายลุย

ผมว่า 520d เหมาะกับคนที่ต้องการความทนทานและประหยัดน้ำมันครับ สะดวกในการเดินทางระยะไกลและไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จไฟฟ้า

สาวไฟฟ้า

530e เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมค่ะ การใช้พลังงานไฟฟ้าช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยังช่วยประหยัดน้ำมันในระยะยาว

คนรักไฮบริด

ใช้ 530e มาได้สักพักแล้วค่ะ รู้สึกว่าเทคโนโลยีไฮบริดช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและเงียบมากขึ้น ประทับใจค่ะ แต่ว่าราคาที่สูงกว่าก็ทำให้ต้องคิดหนักก่อนซื้อ

รถเร็วแรง

ผมคิดว่า 530e น่าสนใจกว่าครับ เพราะมีเทคโนโลยีไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันในเมือง แต่ก็ยังมีพลังแรงสำหรับการวิ่งทางไกลด้วย แต่ต้องยอมรับว่าราคาก็สูงกว่า 520d อยู่พอสมควร

รักธรรมชาติ

เลือก 530e เพราะอยากมีส่วนช่วยลดมลพิษ ส่วนการบำรุงรักษาก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ ไม่ต่างจากรถเบนซินหรือดีเซลเท่าไหร่

สาวกดีเซล

520d นี่แหละคือคำตอบสำหรับคนที่ชอบการขับขี่ที่อึดและประหยัดน้ำมัน ดีเซลให้แรงบิดที่ดีมากในการขับขี่ในเมืองและต่างจังหวัด โอเคเลยสำหรับคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

คุณชายขับชิล

เคยลองขับทั้งสองรุ่นแล้ว ผมชอบความนุ่มนวลของ 530e มากกว่า แม้ว่าจะต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ผมคิดว่ามันคุ้มค่ากับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีกว่า

โฆษณา

คำนวณฤกษ์แต่งงาน 2568

ปฏิทินไทย

24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
วันเสาร์

วันหยุดประจำเดือนนี้

  • วันแรงงาน
  • วันฉัตรมงคล
Advertisement Placeholder (Below Content Area)